วันศุกร์ที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2553

นิสัย ตามปี เกิด

นิสัยตามปี เกิด

ปีชวด

ปรับตัวได้เก่งในทุกสถานการณ์ - คารมดี พูดจูงใจเก่งมาก - ไอ.คิว.เป็นเลิศ - ใครเป็นทุ่มเทหมดใจหมดกระเป๋า - เห็นวันนี้แสนขยัน แต่พรุ่งนี้อาจนอนขี้เกียจทั้งวัน - เป็นนักลงทุนที่ชาญฉลาด - มีความทะเยอทะยานสูง - เป็นนักสะสม - เป็นนักช้อปปิ้ง ชอบของลดราคา - เพื่อนมาก ญาติเยอะ - ชอบพึ่งพาตนเอง - ไฮเปอร์จัด มาดนิ่ง แต่ไม่ชอบอยู่นิ่งเฉย - ไม่ชอบความผูกพัน - เก็บความลับเก่ง - เก็บความรู้สึกก็เก่งนะ - เก็บเงินได้ ใช้เงินเป็น - แก้ปัญหาเก่งมาก - แต่แสดงออกทางอารมณ์ไม่เก่ง - ถือผลประโยชน์ตนเป็นสำคัญ - ขี้หวง ขี้หึง - ขี้บ่น ขี้ระแวง - ช่างติ ช่างวิจารณ์ - ไม่ชอบเก็บ อะไรมาคิดให้รกสมอง - บางครั้งก็เชื่อใจผู้อื่นง่ายเกินเหตุ - ชอบสังสรรค์บันเทิง - ถนัดดูแลงานท่องเที่ยวบันเทิง - คิดฝันในเรื่องรักแบบซึ้งสุดใจ - เน้นความสบาย ไม่ชอบเรื่องซีเรียสใดๆ - ไม่ถนัดเรื่องละเอียดอ่อนนัก

ปีฉลู

สุขุม มาดดี ไม่ช่างจ้อ - อดทนได้อย่างสุดอัศจรรย์ - คงมั่น ยากหวั่นไหว - ขี้อาย เขินเก่งนักเชียว - แสนจะอบอุ่นและอ่อนโยน - หัวดื้อ แบบว่าดื้อเงียบ - หัวเก่า หัวโบราณ - หัวแข็ง เปลี่ยนแปลงยาก - หัวใจไม่ง่าย รักคนยาก - รักแล้ว ลืมยาก - แต่ไม่ยอมเศร้า - ชอบของเก่าๆ ด้วยล่ะ - กตัญญูเป็นที่หนึ่ง - มีความรับผิดชอบสูง - ซื่อสัตย์ น่าเชื่อถือ - มีความหยิ่งทระนง ถือศักดิ์ศรี - รักษาสัญญาสุดฤทธิ์ - ไม่สนใจความคิดผู้อื่น - ไม่เจ้าเล่ห์แสนกล - ใน 5 ปี อาจมีอาละวาดสัก 1 ครั้ง - ขยันขันแข็ง - ไม่ค่อยถนัดเรื่องยั่วเย้าเคล้าคลอ - เลือกแฟนที่จิตใจ มิใช่หน้าตา - รักครอบครัวมาก - รักบ้าน รักครอบครัว - ไม่ชอบออกไปเที่ยวเฮฮาปาร์ตี้ - ยากจะเอ่ยปากให้ใครช่วยเหลือ - คบเพื่อนน้อย เน้นคุณภาพมากกว่าปริมาณ - เน้นเกียรติยศมากกว่าเงินทอง - ปากตรงกับใจ - แต่มักจะปากหนัก ชอบคิดมากกว่า

ปีขาล

มีความนับถือตัวเองสูง - รักงาน - จริงใจใสซื่อ - กล้าทำในสิ่งแตกต่าง - มาดดี มีแต่คนอยากคบ - เป็นนักปฏิวัติ - ไม่กลัวความล้มเหลว - หงุดหงิดง่าย แต่ไม่งอนใครนาน - ชอบแสวงหาความแปลกใหม่ ท้าทาย - บางครั้งก็ดันทุรังสูง - รักเด็ก - อยากรู้อยากเห็น เรียนรู้เร็ว - วู่วาม แต่ก็มีความอ่อนโยนนะ - มากด้วยน้ำใจไมตรี - มีอารมณ์ละไม ชอบศิลปะ - สนุกกับโชคชะตา ไม่กลัวล้มเหลว - ชอบเล่นกีฬา - ชอบผจญภัย - มักรีบด่วนตัดสินใจ - สนุกกับเรื่องท้าทายได้ทุกเมื่อ - รักอิสระ - แต่ก็มีวินัยในการดำรงชีวิต - ยามโกรธ โทสะแรง - แก้ปัญหาได้เอง - มักเสียใจลึก แต่ก็ฟื้นตัวได้เร็ว - ไม่ชอบงอมืองอเท้าพึ่งพาใคร - ทะเยอทะยานสูง - ใจบุญสุนทาน - ขี้หวงขี้หึง - รักง่าย รักร้อนแรง

ปีเถาะ

ปัญญาดี มีไหวพริบ - เป็นนักเจรจา คารมเป็นเลิศ - ใจดี ใจกว้าง ใจละเมอ - หวาดหวั่นขวัญเสียง่าย - เสน่ห์แรง เพื่อนฝูงติดหนึบ - เฮฮาปาร์ตี้กับเพื่อนๆ ได้ - แต่ก็ชอบชีวิตสงบๆ เงียบๆ - มีคุณธรรมสูง - อ่อนโยน แต่ก็เจ้าอารมณ์ไม่เบา - รสนิยมดี ชอบความเก๋ไก๋ - ดูเหมือนหัวอ่อนว่าง่าย แต่ดื้อเงียบ - ไม่ค่อยกระตือรือร้นนัก - มีอารมณ์ติสต์ อ่อนไหวสูง - ปฏิเสธการต่อสู้ การเสี่ยงทุกรูปแบบ - รักสวยรักงามตลอด - ชอบการคลอเคล้าพะเน้าพะนอ - รักแรง เกลียดแรง - เกลียดความก้าวร้าว รุนแรง - ยากที่ใครจะอ่านใจได้ทะลุปรุโปร่ง - ไม่ชอบกฏระเบียบ - เป็นกระต่ายน้อยผู้เสียสละ - ช่างสังเกตเป็นที่สุด - บ่อยครั้งที่จุกจิกจู้จี้เกินเหตุ - มีความห่วงใยเอื้ออาทร - เป็นนักจับผิดตัวยง - ยากที่จะคิดไม่ซื้อหรือเอาเปรียบใคร - รักอาชีพการงานของตน - โอ้อวดตนได้อย่างแนบเนียน - เข้าใจและยอมรับข้อด้อยของคนอื่นได้ - มักภาคภูมิใจในตนเอง

ปีมะโรง

ปลื้มความเนี้ยบ ทุกอย่างต้องเพอร์เฟคต์ - บุคลิกน่าเกรงอกเกรงใจ - มีวาสนา บารมีสูง - มีเสน่ห์ มักเป็นดาวเด่นเสมอ - มีหัวใจแกร่ง และกล้าหาญ - รับผิดชอบสูง - เป็นหัวหน้าคนได้สบาย - ฉลาดปราดเปรื่อง - มีเพื่อนฝูงติดสอยห้อยตามเพียบ - มีความรู้กว้างขวางมาก - ชอบคนง่าย แต่เลือกมาเป็นคู่ยากมาก - บ่อยครั้งเผด็จการ ชอบควบคุมผู้อื่ - ประสบความสำเร็จเร็ว - รักเกียรติรักศักดิ์ศรีมาก - หน้าใหญ่ ใจกว้าง - รักอิสระ แต่ก็มีระเบียบแบบแผน - ชอบท่องเที่ยว ผจญภัย - เจ้าอารมณ์ - ชอบรักษาฟอร์ม ภาพพจน์ต้องดูดีเสมอ - อ่อนไหว ขี้เหงา เศร้าเก่ง - ไม่ชอบพึ่งพาผู้อื่น - ชอบช่วยเหลือผู้คน - ยุ่งเรื่องส่วนตัวผู้อื่นมากไปนิด - ปลื้มคนที่ความสามารถมากกว่าคนมีเงิน - สนใจใคร่รู้ในทุกเรื่อง - เรียกร้องความรักอย่างสูงสุด - แสวงหาความชื่นชอบยอมรับจากคนรอบข้าง - แต่ไม่ค่อยทุ่มเทความรักตอบแทนไป - ยิ่งมีอายุ ยิ่งดูเด็กลง - หลงตัวเองเหมือนกันนะ

ปีมะเส็ง

เซ็กซี่ มีความเร้าใจ - ฉลาดลึกล้ำ - อยู่ในโลกของความจริง มากกว่าเพ้อฝัน - ความจำเป็นเลิศ - ใจแข็ง ใจเด็ด - อารมณ์ขันน่ะมี แต่ฝืดเล็กน้อย - ช่างสังเกต ช่างระแวดระวัง - มีความมุ่งมั่นสูง - เป็นเจ้าของโครงการในฝัน นับร้อย - เยือกเย็นแต่โมโหร้าย - ไม่ชอบเปิดเผย ไม่ชอบวุ่นวายกับใคร - มีลางสังหรณ์ ความรู้สึกไว - เจ้าคิดเจ้าแค้น - แต่ไม่มีเล่ห์เหลี่ยมมารยา - ชอบเรียนรู้ หัวไว - รักจริงหวังแต่ง - แสดงออกทางอารมณ์ไม่เก่งนัก - ไม่ชอบนินทาใคร - ไม่เห็นว่าเงินเป็นพระเจ้า - กระตือรือร้นน้อยมาก - เชื่อความรู้สึกมากกว่า เหตุผล - ชอบแสดงความเป็นเจ้าของ - รักเพื่อน แต่มีเพื่อนซี้น้อย - จริงใจ แต่ทำตัวเหมือนไม่เปิดกว้างนัก - ชอบสบายกับทางลักมากกว่าทางตรง - ชอบช่วยคนด้วยหวังดี แต่มักผิดหวัง - ทุ่มเทมุ่งมั่นได้แค่ช่วงสั้นๆ - ไม่กลัวลำบาก - บางครั้งก็ชอบคิดในแง่ลบ ก่อนแง่บวก - ถ้าโกรธ ไม่เย็นเหมือนบุคลิกหรอก

ปีมะเมีย

เปิดเผย ไม่เคยมีความลับ - มีหัวใจ เสรี - มีมุขฮาๆ มาโชว์เสมอ - นิยมความเลิศหรู ดูโดดเด่น - สดชื่น รื่นเริงตลอดปี - จัดการเรื่องเงินเก่งมาก - ฉลาดเฉลียว เอาตัวรอดเก่า - เป็นหัวหน้าฝ่ายกิจกรรมได้ดี - มีความทะเยอทะยานสูง - ชอบให้ยกยอปอปั้น - ชอบการแสดงออกสุดฤทธิ์ - มีเรี่ยวแรงเหลือเฟือ เหนื่อยยาก - ขี้เบื่อ สมาธิสั้นมาก - อดทนน้อย อดกลั้นไม่เก่ง - โกรธใครเป็นต้องทำหน้าหงิกทันที - รักการเดินทาง ผจญภัย - สนุกกับชีวิตมากกว่าจะเอาจริงเอาจัง - รู้จักรอมชอม ไม่ก้าวร้าว - ตามใจตัวเองเป็นที่หนึ่ง - ชอบเคลื่อนไหว ไม่อยู่นิ่ง - ฉุนใครเป็นต้องโต้ตอบ - ไม่ยอมให้ตัวเองทุกข์ เศร้าบ้าง - บางครั้งก็ ถอดใจ ยอมแพ้ได้อย่างคาดไม่ถึง - กล้ารัก กล้าเลิก - มีมิตรสหายเป็นแสน - แต่มีคนชังเพราะปากตัวเอง - ไม่หวั่น แม้ยิ่งสูงยิ่งหนาว - หาญกล้า บ้าบิ่น

ปีมะแม

มีกำลังใจเข้มแข็ง - สุภาพ สุขุม ลุ่มลึกละเมียดละไม - จริงใจสุด ฤทธิ์ - ชอบบริหารสเน่ห์เป็นงานหลัก - ขี้สงสาร ขี้เหงา ขี้อาย - ตัดสินใจช้ามาก - บ่นเก่งไม่เบา - เป็นคุณนาย (หรือคุณชาย) สายเสมอ - ใจกว้าง พร้อมจะให้อภัยเสมอ - มักเสียสละเพื่อผู้อื่น - มักเป็นห่วงเป็นกังวล - ไม่มีความดันทุรังสูง - อดทนอดกลั้น สุดอัศจรรย์ - เจ้าเล่ห์เจ้ากลแนบเนียนมาก - สนใจเรื่องเร้นลับ - ปฏิเสธความก้าวร้าวและความรุนแรง - ร้อยวันพันปีมีโมโหน้อยครั้ง - ไม่ชอบการแข่งขันทุกรูปแบบ - ปลอบโยนเก่ง ให้คำแนะนำได้ซึ้งมาก - โรแมนติกสุดหัวใจ - บุคลิกอ่อนโยน แต่ใจเด็ดมาก - ยอมเหนื่อยทางตรงมากกว่าสนทางลัด - เน้นหลักช้าๆ ได้พร้าเล่มงาม - รู้จักปรับตัวในทุกสถานการณ์ - ไม่ขี้เหนียว แต่ก็ไม่สุรุ่ยสุร่าย - แคร์คนรอบข้างเสมอ - แต่ไม่ค่อยปลื้มกับความเปลี่ยนแปลงใดๆ - ยึดมั่นในความรักและความผูกพัน - เป็นนักเจรจาต่อรองที่ดีเลิศ - ไม่เคยหวั่นแม้วันเจอมรสุมชีวิต

ปีวอก

แก้ปัญหาเก่ง ไหวพริบดี - มีไอเดียสร้างสรรค์ - มีเสน่ห์ ชวนให้ติดตาม - ฉลาดแกมโกง - เป็นนักพนัน นักเที่ยว และนักรัก - ขี้เล่น อารมณ์ดี ยิ้มตลอด - ปรับตัวเก่ง เข้ากับผู้คนง่าย - มีหัวใจอบอุ่น - เป็นหัวหน้าฝ่ายเอนเตอร์เทนได้สบาย - เชื่อมั่นในตัวเองไม่น้อยเลย - บางครั้งดูเหลวใหล แต่มีเป้าหมายชีวิต - คิดเร็ว ตัดสินใจเร็ว - ตกหลุมรักง่าย หน่ายเร็ว - รอบรู้ สนอกสนใจทุกเรื่อง - ไม่แคร์คำติติงวิพากษ์วิจารณ์ - ไม่ปลื้มคนเฉื่อบชาเชื่องช้า - เป็นผู้นำกลุ่มได้ - เป็นคนกินง่ายอยู่ง่าย - คารมดี ช่างฉอเลาะ - แต่ก็รับผิดชอบการงานดีนะ - ลุยได้เสมอ แต่ไม่ชอบงานหนัก - แต่บางคราวก็วู่วามไร้เหตุผล - ยากจะจัดระเบียบให้ชีวิตตัวเอง - ชอบให้คนสนใจ - เน้นรักสนุกมากกว่าคิดทะเยอทะยานสูง - เจ้าชู้ สนใจแต่เรื่องเพศตรงข้าม - แต่จีบไม่ค่อยเป็นหรอก - โรแมนติกไม่เบา - ติดเพื่อน - ดวงดี ไม่ค่อยมีวันลำบาก

ปีระกา

จิตใจเอื้ออารี - หาญกล้า มีลูกบ้าในตัว - ตรงต่อเวลา - ใจคิดอะไร ปากว่าอย่างนั้น - มาดเท่ตลอดปี - เป็นลูกคุณนาย นามสกุลประณีต - หยิ่งทระนง ไม่แคร์ใคร - แสวงหาสิ่งที่ดีที่สุดเท่านั้น - ควบคุมผู้อื่นได้อย่างแนบเนียน - ไม่รอมชอม ผิดก็ว่าผิด - อยากเป็นคนเด่นดังในสังคม - รักอิสระ แต่มีกฏระเบียบสูง - ดื้อดึง ก้าวร้าวเงียบๆ - แต่มองโลกในแง่ดี - และก็มีอารมณ์เพ้อฝันไม่น้อยเลยนะ - สนุกกับการโต้เถียงปะทะคารม - ช่างสังเกต ช่างจับผิด - มีน้ำใจ ไม่ทิ้งเพื่อน - เจ้าชู้ รักคนง่าย - ใจซื่อ มือสะอาด - หงุดหงิดง่าย แต่ก็ควบคุมอารมณ์ได้ - เป็นนักต่อสู้ - รู้จักคิดและมองการณ์ไกล - เชื่อถือได้เสมอ - มีความสามารถในทางศิลปะ - รักสวยรักงาม - ชมได้ แต่อย่ามาติกันนะ - ช่างคิด ช่างสะเทือนใจ - หวังให้แฟนเป็นดั่งใจทุกอย่าง - บางครั้งก็ดูเรื่องมากกว่าเพื่อนๆ

ปีจอ

ช่างสังเกตเป็นเลิศ - ให้เกียรตคน อื่นเสมอ - มีอารมณ์ขันเหมือนกันนะ - รู้ชนะ รู้อภัย - ปากกับใจตรงกันเสมอ - เป็นลูกศิษย์ Batman - เป็นลูกศิษย์เปาบุ้นจิ้น - มองคนเก่ง อ่านคนเป็น - ไม่ชอบโอ้อวดตน - เพื่อนพ้องน้องพี่ต้องมาเป็นอันดับ 1 - บางครั้งก็เอะอะโวยวายไม่เบา - สนใจใฝ่รู้เกินเหตุ - มักเดือดร้อนแทนเพื่อน - โกรธง่าย หายเร็วมาก - เปิดเผย ไม่มีลับลมคมใน - รอบคอบ ไม่ประมาท - ไม่ปลื้มความหรูหราเลอเลิศ - ชอบเคลียเคล้าพะเน้าพะนอ - รักง่าย แต่ไม่หลายใจ ชัวร์! - ขี้สงสัย ขี้ระแวง - บางครั้งก็เชื่อคนง่ายเกินไป - มักเขม่นผู้อื่นง่าย - ขี้บ่นไม่เบาเหมือนกัน - ปลอบเพื่อนได้เก่ง - แต่อย่าไปเล่าความลับให้ชาวจอรู้นะ - รักเดียวใจเดียว - ยากจะคิดนอกใจ แฟน - เหมือนเด็กดื้อ อารมณ์เสียง่าย - รักถิ่นฐาน ไม่ชอบผจญภัย

ปีกุน

อบอุ่น จริงใจ - คิดอย่างไร พูดอย่างนั้น - มีเสน่ห์ที่ความเรียบง่ายสบายๆ - ไม่มีเล่ห์เหลี่ยมใดๆ ใสซื่อตลอด - แต่บ่อยครั้ง ไม่ค่อยยืดหยุ่นบ้าง - เป็นศิลปินได้ดีกว่าเป็นนักธุรกิจ - อารมณ์ดี ชอบเฮฮาปาร์ตี้ - เข้ากับผู้คนง่าย - ใจเย็น ยากจะเห็นหมูอาละวาด - ใจอ่อน ใจดี ใจบุญ - ชอบทำงาน หาเงินเก่ง - ไม่เคยถือโทษโกรธใคร - ไม่ทันเล่ห์เหลี่ยมใคร - ยากจะท้อถอย - ไม่ทะเยอทะยานนัก - มีความ สามารถในการรอคอยสูงมาก - อ่อนไหว แต่ไม่ชอบเศร้า - เข้าใจผู้คน ได้ลึกซึ้ง - เป็นคนบูชารัก - เป็นนักชิม - อ่อนโยน แต่ไม่อ่อนแอ - มีความซื่อ ตรงมาก - พลังใจเด็ดเดี่ยวแข็งกล้า - บางครั้งก็หัวแข็งไม่ฟังใคร - มีหัวใจของนักสู้ - รักจริง หวังแต่ง - ช่างเอาอกเอาใจ - ไม่โรแมนติกนักหรอก - ทุ่มเทให้ครอบครัวเสมอ - เป็นผู้นำได้ดี

เรื่องเล่าซึ้งๆ ‘ถึงเธอไม่รู้จักผม แต่ผมยังรู้ว่าเธอเป็นใคร’

เรื่องเล่าซึ้งๆ ‘ถึงเธอไม่รู้จักผม แต่ผมยังรู้ว่าเธอเป็นใคร’


มัน เป็นตอนเช้าเวลาประมาณ 08.30 น. ที่วุ่นวายเอาการเมื่อสุภาพบุรุษสูงอายุท่านหนึ่งในวัย 80 กว่า มารับบริการแพทย์ตัดไหมจากแผลที่หัวแม่มือ และบอกว่าขอให้รีบหน่อยเพราะมีนัดตอน 09.00 น.

เมื่อ ผมตรวจร่างกายตามปกติเสร็จผมก็ขอให้นั่งรอโดยผมรู้ว่าอย่างไรเสียก็ไม่ หนีหนึ่งชั่วโมง กว่าที่จะถึงคิว

ผมเห็นสุภาพบุรุษท่านนี้ดูนาฬิกาหลายครั้งอย่างกระสับกระส่าย ผมว่างอยู่พอดีจึงเข้าไปดูแผลให้

เมื่อตรวจดูก็เห็นเป็นปกติ ผมจึงเดินไปหารือกับหมอคนหนึ่งที่ให้บริการอยู่ เอายาและวัสดุมาทำแผลให้

ขณะที่ตัดไหมอยู่ผมก็ถามว่า มีนัดกับหมออีกคนหรือจึงดูรีบร้อน

สุภาพบุรุษท่านนี้ตอบว่าไม่หรอก

ผมก็ถามถึงสุขภาพของภรรยา ก็ตอบว่าภรรยาอยู่ที่นั่นมานานพอควรแล้ว และเธอเป็นโรค Alzheimer’s

ขณะที่คุยกันผมก็ลองถามดูว่าเธอจะรู้สึกกังวลเป็น ทุกข์ไหมถ้าไปสายสัก หน่อย



สุภาพบุรุษท่านนี้ก็ตอบว่า เธอไม่รู้หรอกว่าผมเป็นใคร เธอจำผมไม่ได้มา 5 ปีแล้ว

ผมรู้สึกแปลกใจจึงถาม ว่า ‘แล้วคุณก็ยังไปทุกเช้าถึงแม้ว่าเธอจะไม่รู้ว่าคุณเป็นใครก็ตาม’


สุภาพบุรุษสูงอายุยิ้ม และตบเบาๆ บนมือผมและพูดว่า

‘ถึงเธอไม่รู้จักผม แต่ ผมยังรู้ว่าเธอเป็นใคร’


ผมต้องกลั้นน้ำตา ขณะที่เดินจากไป ขนบนแขนผมลุกชันและคิดว่า ‘นั่นคือความรักอย่างที่ผมต้องการที่สุดในชีวิต’

ความรักที่แท้จริงไม่ใช่เรื่องของกายภาพหรือ โรแมนติก ความรักที่แท้จริงคือการยอมรับทุกสิ่งที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน

ได้เป็นมาตลอด รวมทั้งที่จะเป็น และที่จะไม่เป็นด้วย

คนที่มีความสุขที่ สุดไม่จำเป็นว่าจะต้องมีสิ่งดีที่สุดของทุกสิ่ง เขาเพียงทำสิ่งที่เขามีอยู่ให้ดีที่สุด



..............................


นิทานความ รักซึ้งๆ







นิทานความ รักซึ้งๆ “มีเมืองเล็ก ๆ ที่สวยและสงบสุขเมืองหนึ่ง….”


มี เมืองเล็ก ๆ ที่สวยและสงบสุขเมืองหนึ่ง มีคู่รักคู่หนึ่งที่รักกันมาก ทุกวันพวกเขาจะพากันไปดู

พระอาทิตย์ขึ้นที่ชายหาด และไปส่งพระอาทิตย์ลับขอบฟ้าที่ชายหาดตอนโพล้เพล้ ทุกคนที่เคยพบเจอพวกเขา

จะมองด้วยสายตาอิจฉาในความรักของคนคู่นี้เสมอ
แต่แล้ววันหนึ่ง..เกิดอุบัติเหตุรถชนขึ้น หญิงสาวผู้โชคร้ายได้รับบาดเจ็บสาหัส เธอนอนเงียบ ๆ

อยู่บนเตียงของโรงพยาบาล วันแล้ววันเล่า คืนแล้วคืนเล่า เธอก็ยังคงไม่ฟื้นคืนมา

ตอนกลางวัน ชายหนุ่มจะมาเฝ้าอยู่ที่หน้าเตียง ร้องเรียกคนรักของเขาเสมอ

ทั้งๆ ที่เธอไม่ตอบสนองใด ๆ เลย ตกกลางคืน ชายหนุ่มจะไปสวดภาวนาออนวอนต่อพระผู้เป็นเจ้าที่โบสถ์นอกเมือง

เขาร้องไห้จนน้ำตาเหือดแห้ง ไม่มีจะไหลออกมาอีกแล้ว ผ่านไป 1 เดือน หญิงสาวยังคงหลับใหลไม่ฟื้นเหมือนเดิม

ส่วนชายหนุ่มก็ดูจะซูบเซียวขึ้นทุกวัน แต่ก็ยังคงสวดอ้อนวอนต่อพระผู้เป็นเจ้าอยู่เสมอไม่หยุด

แต่ แล้ววันหนึ่ง พระผู้เจ้าก็เกิดเห็นใจในรักของชายหนุ่มและตกลงที่[ประทาน]พรให้แก่เขา



พระผู้เป็นเจ้าได้ถาม ชาย หนุ่มว่า
“เจ้ายอมที่จะแลกพรนี้ด้วยชีวิตของเจ้าไหม” ชายหนุ่มตอบโดยไม่ลังเลว่า
“ ผมยอมครับ” พระผู้เป็นเจ้าพูดว่า
“งั้นดีฉันจะให้คนรักของเจ้าฟื้นขึ้นมา แต่เจ้าต้องแลกกับการกลายเป็นแมลง ปอเป็นเวลา 3 ปี เจ้าจะตกลงยอมไหม

ชายหนุ่มได้ฟังดังนั้น แต่ก็ยังคงยืนยันคำตอบเดิม “ผมยอมครับ” ฟ้าสางแล้ว

ชายหนุ่มได้กลายเป็นแมลงปอสวยงามตัวหนึ่ง เขาบอกลาพระผู้เป็นเจ้าแล้วรีบบินกลับไปที่โรงพยาบาลหญิงสาวฟื้นขึ้นมาแล้ว จริง ๆ มีนายแพทย์หนุ่มยืนอยู่ข้าง ๆ เธอ คุยเรื่องอะไรกันสักอย่างหนึ่ง แต่ช่างเสียดายที่เขาไม่สามารถที่จะได้ยิน.

หลายวันผ่านไป หญิงสาวแข็งแรงพอที่จะออกจากโรงพยาบาลได้แล้ว แต่เธอดูไม่มีความสุขเลย

เธอออกตะเวณหาข่าวคราวของชายหนุ่ม แต่ไม่มีใครรู้เลยว่าชายหนุ่ม


หาย ไปอยู่ที่ไหน หญิงสาวยังไม่ละ
ความพยายามที่จะตามหาชายคนรักของเธอ

ชายหนุ่มซึ่งอยู่ในร่างของเจ้าแมลงปอ ได้[แต่]บินวนเวียนอยู่รอบตัวหญิงสาวไม่ห่าง

[ทว่า]เขาไม่สามารถที่ส่งเสียงไม่สามารถโอบกอด[เธอ] เขาทำได้แค่เพียงเฝ้ามองดูหญิงสาวไม่ให้คาดสายตาเท่านั้น

ฤดู ร้อนผ่านไปแล้ว ลมฤดูใบไม้ร่วงพัดใบไม้ปลิวร่วงหล่นจากต้นไม้ใหญ่ เจ้าแมลงปอจำต้องจากที่นี่ไปแล้ว

นี่เป็นครั้งสุดท้ายที่ เขาจะได้บินมาเกาะที่บ่าของหญิงสาว เขาอยากใช้ปีกของเขาลูบใบหน้าของหญิงสาว

อยากใช้ปากเล็ก ๆ จูบที่หน้าผาก แต่อย่างไรก็ดีร่างเล็กบอบบางใน


คราบ ของแมลงปอก็ไม่สามารถเรียกร้องความ สนใจจากหญิงสาวได้

แค่พริบตา ฤดูใบไม้ผลิก็มาเยือน เจ้าแมลงปอรีบบินกลับมาหาคนรักของเขา

เพื่อจะพบว่าร่างอัน คุ้นตานั้นบัดนี้ได้ยืนเคียงคู่ อยู่กับชายรูปร่างสันทัดคนหนึ่ง ภาพ ๆ นั้นทำให้เจ้าแมลงปอเกือบจะบินตกลงมาจากอากาศเลยทีเดียว

ชาว บ้านต่างกล่าวขานถึงเรื่องอุบัติเหตุที่ทำให้หญิงสาวได้รับบาดเจ็บ

สาหัสทำให้ได้พบกับแพทย์หนุ่มที่น่ารัก และ ใจดี

คน นั้น และยังกล่าวถึงความรักของคนทั้งคู่ที่เหมือนถูกกำหนดมาอย่างไรอย่างนั้น

แน่ นอนพวกเขายังคงพูดถึงหญิงสาวที่สดใสร่าเริงขึ้นกว่าเมื่อก่อนมากมายนัก

เจ้าแมลงปอรู้สึกเจ็บปวดยิ่งนัก หลังจากนั้นไม่กี่วัน

แมลงปอเห็นแพทย์หนุ่มผู้นั้นพาคนรักของตนไปชายทะเลเพื่อดูพระอาทิยต์ขึ้น
พลบค่ำก็อยู่ที่ชายหาดเพื่อดูพระอาทิตย์ตก แต่สำหรับเขาแล้ว

นอกจากบินมาเกาะที่บ่าของหญิงสาวแล้ว เขาไม่สามารถทำอะไรได้เลย

หน้าร้อนของปีนี้ช่างยาวนานนัก เจ้าแมลงปอบินต่ำลง ๆ ทุกวันด้วยความรู้สีกที่เจ็บปวด

เขาไม่มีเรี่ยวแรงเพียง พอที่จะบินเข้าใกล้ หญิงอันเป็นที่รัก ท่าทางการพูดคุยกันอย่างสนิทสนมของคนทั้งคู่ เสียงหัวเราะอย่างมีความสุขของทั้งคู่

ทำให้เขารู้สึกโดด เดี่ยวยิ่งนัก


ย่างเข้าฤดูร้อนของปีที่ 3 เจ้าแมลงปอไม่ค่อยไปเฝ้าดูคนรักของเขาแล้ว บ่าของเธอบัดนี้ถูกโอบกอดด้วยมือของแพทย์หนุ่ม
ใบหน้าถูกประทับจูบอย่างเบา ๆ จากเขาผู้นั้น

ดู ท่าทางแล้วไม่มีทางเลยที่หญิงสาวจะมีเวลาที่จะไปคิดถึงแมลงปอที่เจ็บปวด ตัวหนึ่ง
ยิ่งไม่มีทางที่จะไปคิดถึงอดีตสิ่งที่ผ่านไป วันครบรอบปีที่ 3

ที่พระผู้เป็นกำหนดไว้ใกล้มาถึงแล้วคนรักของเจ้าแมลงปอกับนายแพทย์หนุ่ม

ได้ จัดพิธีแต่งงานขึ้นในวันสุดท้ายนั้นเอง เจ้าแมลงปอค่อย ๆ บินเข้าไปในโบสถ์



และ ไปเกาะที่บ่าของพระผู้เป็นเจ้าเขาได้ยินเสียงของคนรัก

ที่ดังมาจากข้างล่างตอบรับคำสาบานของพระผู้เป็นเจ้าว่า “ฉันยอมรับ”

เขา เห็นแพทย์หนุ่มคนนั้นสวมแหวนให้คนรักของเขา ตามด้วยจุมพิตที่แสนหวานของคนทั้งคู่.


เจ้า แมลงปอปล่อยให้น้ำตาแห่งความเจ็บปวดไหลออกมา

พระผู้เป็นเจ้าถามแมลงปอว่า “เจ้ารู้สึกเสียใจไหม” เจ้าแมลงปอเช็ดน้ำตาแล้วตอบว่า “เปล่า” พระผู้เป็นเจ้าถอนหายใจแล้วพูดต่อว่า


“งั้นพรุ่งนี้เจ้าก็ได้ กลับเป็นเจ้าคนเดิมแล้ว” เจ้าแมลงปอส่ายหน้าอย่างช้า ๆ ก่อนตอบว่า



“ ขอผมเป็นแมลงปออย่างนี้ไปตลอดชีวิตเถอะครับ”

บางบุพเพ ชะตาถูกกำหนดมาเพื่อที่ต้องสูญเสียไป บางบุพเพ

ตอน จบไม่ได้สวยงามอย่างที่คิด รักคน ๆ หนึ่ง ไม่จำเป็นต้องได้รับรักตอบ

แต่เมื่อได้รับรักจากใครคนหนึ่งเราต้องดูแลรักษามันไว้อย่างดี บนบ่าของคุณมีแมลงปอไหม

วันจันทร์ที่ 5 เมษายน พ.ศ. 2553

ศาสตร์และศิลป์ทางดนตรี


ศาสตร์และศิลป์ทางดนตรี


ความรู้ที่มีอยู่ในโลกนี้เราอาจแบ่งได้เป็น2ประเภทคือความรู้ที่เป็น ศาสตร์ และ ความรู้ที่เป็นศิลป์
ความรู้ที่เป็นศาสตร์ หมายถึงความรู้ที่มีพื้นฐานมาจากความเป็นจริง สามารถพิสูจน์ให้เห็นจริงได้ และเป็นจริงเสมอ ทั้งยังเป็นความรู้ที่ถาวรตลอดไป เช่น พระอาทิตย์ขึ้นทางทิศตะวันออกและตกทาง ทิศตะวันตกเสมอ วัตถุชนิดเดียวกันมีมวลไม่เท่ากันย่อมมีน้ำหนักไม่เท่ากัน น้ำจะมีสถานะเปลี่ยนไปเมื่อ อยู่ในอุณหภูมิต่างกัน เป็นต้น ความรู้ที่เป็นศิลป์ หมายถึงความรู้ที่มีพื้นฐานมากจากการสมมุต ิและเป็นที่ยอมรับกันในหมู่ชนหรือสังคมหนึ่งๆ จะพิสูจน์ได้หรือไม่ได้ ไม่ใช่สาระสำคัญ ความรู้ประเภทนี้จะเป็นความรู้ที่ยั่งยืนมากน้อยเท่าใดขึ้นอยู่กับการยอมรับ ของสังคมและหมู่ชนนั้นๆ เช่นความเชื่อเรื่องวิญญาณ สีแดงคือพระอาทิตย์ วัตถุที่ไว้ตักอาหารเรียกว่าช้อน คนตายย่อมไปอยู่อีกโลกหนึ่งเรียกว่าปรโลกการจินตนาการเมื่อได้ดูภาพที่ ประทับใจหรือเกิดความซาบซึ้ง สะเทือนใจเมื่อได้รับฟังบทเพลงหรือบทกวีเป็นต้น
ดนตรี เป็นเรื่องของเสียงที่มีความไพเราะ และ คือความรู้ที่เป็นทั้งศาสตร์และศิลป์ในตัวเอง ที่ว่าเป็นศาสตร์ เพราะสามารถพิสูจน์และเป็นจริง เช่น กลองแขกเสียงจะสูงขึ้น ก็ต่อเมื่อเราขึงหนังให้มีความตึง ของหน้ามากขึ้น นี่เป็นความรู้เรื่องวิทยาศาสตร์ที่ว่าด้วยเสียงเกิดจากการสั่นสะเทือนของ วัตถุ คือวัตถุสั่นสะเทือนช้า คลื่นเสียงจะต่ำไม่ถี่ เสียงที่ดังออกมาก็จะต่ำ วัตถุสั่นสะเทือนเร็ว
คลื่นเสียงจะสูงและถี่ เสียงที่ดังออกมาก็จะสูง เป็นต้นและที่ว่าเป็นศิลป์เพราะทำให้ผู้ที่ได้รับฟังหรือ ชมผลงานเกิดความประทับใจ เกิดอารมณ์สะเทือนใจ และเกิดการจินตนาการได้ เช่น เมื่อชม ภาพวาดในพระราชนิพนธ์เรื่องพระมหาชนกแล้วเกิดความรู้สึกว่า สวยงามมาก เกิดจินตนาการ เกิดอารมณ์สะเทือนใจ ในผลงานการเล่าเรื่องด้วยภาพ หรือชมภาพจิตกรรมฝาผนังเรื่องไตรภูมิพระร่วงแล้เกิดจินตนาการเรื่องของนรก สวรรค์ เกิดอารมณ์สะเทือนใจเกรงกลัวต่อการทำบาป เมื่อฟังเสียงเพลงธรณีกรรณแสง หรือค่าน้ำนมแล้วเกิดความซาบซึ้งและเกิดอารมณ์สะเทือนใจ จนเกิดจินตนาการทำให้น้ำตาไหล เป็นต้น
งานศิลปะที่สามารถทำให้ผู้บริโภคเกิดอารมณ์สะเทือนใจได้นั้นเราเรียกว่า "ศิลปะบริสุทธิ์" (Pure Art) และดนตรีก็ถือว่ามีความเป็นศิลปะบริสุทธิ์มากที่สุด

ความเเตกต่างเเละการพัฒนา

การใช้เวลาของชีวิตแต่ละช่วงแต่ละวัยมีความแตกต่างกัน ไปตามธรรมชาติของวัยนั้นๆโดยแต่ละวัยต่างมีภาระกิจเด่นๆและมีการนำภาระกิจ เด่นๆเหล่านั้นได้มากำหนดบทบาทของวัยต่างๆตั้งแต่เป็นทารกจนกระทั่งเป็นวัย ชราๆด้วยเริ่มตั้งแต่ วัยเล่น?? วัยเรียน? วัยรัก วัยทำงาน? วัยสร้างตัว? วัยสร้างครอบครัว วัยทอง? วัยเกษียณ? จนกระทั่งวัยพักผ่อนตามลำดับ

?????? จากภาระกิจหลักของแต่ละวัยจะเห็นว่า “การเล่น” จะเป็นภาระกิจพื้นฐานเบื้องต้นที่มนุษย์เรามีตั้งแต่คลอดออกมาจากครรภ์มารดา และการให้เด็กมีโอกาสได้เล่นจะเป็นจุดเริ่มต้นให้เด็กคน นั้นสามารถปฎิบัติภาระกิจอื่นๆตามช่วงวัยต่อมาได้เป็นผลสำเร็จเพราะการเล่น เป็นเรื่องจริงจังและมีความความสัมพันธ์ต่อเด็กอย่างใกล้ชิด??? การเล่นที่เหมาะสมและถูกต้องตามวัยและพัฒนาการของเด็กจะเป็นเครื่องบ่งชี้ ถึงคุณภาพของเด็กอีกทั้งยังเอื้อให้มีผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพในอนาคตการด้วย

??????การเล่นมีผลต่อการกระตุ้นการเรียนรู้?? พัฒนาการทางสมอง?? เสริมสร้างความฉลาด?? พัฒนาสติปัญญา? พัฒนาอารมณ์? ความคิดสร้างสรรค์?? การสื่อสาร? การปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่นไม่ว่าต่างวัยหรือวัยเดียวกัน ฝึกการยอมรับความคิดเห็นของผู้อื่น?? การเล่นช่วยเสริมสร้างลักษณะนิสัยของเด็ก? เด็กๆจะได้เรียนรู้ทักษะต่างๆจากการเล่น?? เช่น? การทรงตัว?? การเคลื่อนไหว?? การใช้ประสาทสัมผัส?? การใช้กล้ามเนื้อต่างๆ? ช่วยให้เกิดการเรียนรู้ที่จะแก้ไขปัญหา? ฝึกความจำ?? ฝึกความมีวินัย? ฝึกความรับผิดชอบต่อตนเองและผู้อื่นซึ่งจะพัฒนาไปสู่ความรับผิดชอบต่อสังคม เมื่อเติบใหญ่ขึ้น

ข้อสังเกตจากประสบการณ์การทำงาน พบว่า มีความแตกต่างกันของเด็กวัยเดียวกันที่มีโอกาสได้เล่น กับเด็กที่ไม่มีโอกาสได้เล่นตามไม่ว่าจะด้วยเงื่อนไขหรือข้อจำกัดใดๆก็ตาม? กล่าวคือ เด็กที่มีโอกาสได้เล่นจะมีอารมณ์ร่าเริงแจ่มใส?? กระฉับกระเฉง? กล้ามเนื้อทั้งมัดเล็กที่และมัดใหญ่แข็งแร็งไม่ว่าจะเป็นทักษะการใช้มือ?? การเดิน? วิ่ง? การเคลื่อนไหว หรือการทรงตัว?? เด็กจะกล้าลองผิดลองถูกซึ่งนำไปสู่การมีทักษะในการแก้ไขปัญหา? ปรับตัวเข้ากับสิ่งแวดล้อมใหม่ๆได้ง่าย มีจินตนาการ? ทักษะการใช้ภาษาค่อนข้างดี?? มีความสามารถในการโต้ตอบ ในทางตรงกันข้ามเด็กที่ไม่มีโอกาสได้เล่นจะมีผิวพรรณซูบซีด? งอแงไม่ร่าเริงแจ่มใส กล้ามเนื้อไม่แข็งแรง? ไม่กล้าแสดงออก?? ขลาดกลัวต่อการเผชิญกับคนแปลกหน้าและ ต้องการเวลาเพื่อการปรับตัวหรือสิ่งแวดล้อมใหม่??? มีข้อจำกัดในการใช้ภาษา??? ไม่กล้าโต้ตอบ ฯลฯ?

กรณีตัวอย่าง? เช่น? เด็กชายวัยขวบครึ่งสองราย รายหนึ่งได้รับการเลี้ยงดูจากพ่อแม่อยู่ในบรรยากาศของครอบครัวที่ส่งเสริม ให้เด็กได้เล่นตามวัย?? เด็กจะมีสุขภาพจิตดี? ร่าเริงแจ่มใส? เด็กมีความสุขกับการได้สำรวจ? สิ่งแวดล้อมรอบๆตัว?? เด็กจะเดินเตาะแตะหรือคลานไปโน่นมานี่? หยิบของต่างๆมาเคาะเล่น? ชอบแหย่นิ้วในรูเล็ก ๆ บางทีก็หยิบของใส่ปากซึ่งเป็นพฤติกรรมหนึ่งที่เด็กวัยนี้แสดงออกเพื่อทำความ รู้จักกับโลกภายนอกตัวเขาโดยการดูด?? กัด หรือสัมผัส?? เด็กชายคนนี้จะสามารถสื่อสารบอกความต้องการของตนเองได้? รู้จักชื่อของตนเอง? การมีโอกาสได้เล่นทำให้เด็กได้พบกับสถานการณ์ต่างๆที่เป็นเสมือนแบบฝึกหัด ให้เขาฝึกแก้ปัญหา


ดังเช่นเด็กชายคนนี้เมื่อเขาคลานไปถึงประตูบานใหญ่บานหนึ่งเขาลุกขึ้นแล้ว กางแขนออกสุดแขนตามความกว้างของประตูแต่….แขนของเขาสั้นไป? เขาพยายามครั้งแล้วครั้งเล่าที่จะจับขอบประตูทั้งสองข้างเพื่อที่จะก้าวให้ พ้นธรณีประตู เขาทำไม่ได้ เขาทำหน้าเบ้เหมือนจะร้องไห้แล้วหันมามองหน้าผู้ใหญ่ที่อยู่ใกล้ๆคล้ายกับจะ ขอความช่วยเหลือ?? เขาได้รับการกระตุ้นให้ลองพยายามใหม่และมีผู้ใหญ่ยืนให้กำลังใจอยู่ข้างๆ? ในที่สุดเขาก็ทำได้? เขาเดินไปชิดขอบประตูด้านใดด้านหนึ่งใช้มือทั้งสองจับขอบประตูเพื่อพยุงตน เองให้ก้าวพ้นธธรณีประตูโดยหันหลังออก?? เมื่อเขาทำได้ผู้ใหญ่ที่อยู่ใกล้ตั้งแต่แรกเอ่ยคำว่าเก่งและปรบมือให้?? เด็กจะเลียนแบบ? ปรบมือ และมีท่าทีที่เป็นสุข

เด็กได้ผ่านบทเรียนไปอีกบทหนึ่ง? ยังมีบทเรียนอีกมากที่คอยเขาอยู่ซึ่งประสบการณ์ที่ดีจากบทเรียนที่ผ่านไปเขา ของที่ได้จากการเล่นนั่นเองจะช่วยส่งเสริมสนับสนุนให้เขาผ่านบทเรียนอื่นๆไป ได้? ซึ่งความสำเร็จนี้จะก่อตัวขึ้นมาพร้อมกับความภูมิใจในตนเอง? ความเชื่อมั่นในตนเอง และ การเห็นคุณค่าของตนเองได้อีกทางหนึ่งด้วย ในขณะเดียวกันนั่นเองในการเล่นอีกเช่นกันที่จะช่วยสอนให้เขารู้จักความไม่ สำเร็จและกระตุ้นให้เขาพัฒนาตนเองต่อไป?? ในเด็กชายวัยขวบครึ่งอีกคนหนึ่งซึ่งได้รับการเลี้ยงดูในบรรยากาศมี่ไม่เอื้อ ให้เด็กได้เล่นตามวัยและไม่ได้ใกล้ชิดกับพ่อแม่ในบรรยากาศของครอบครัวที่ อบอุ่น? เด็กจะเซื่องซึม?? งอแง?? กล้ามเนื้อแขนขาดูอ่อนแรง?? ไม่ค่อยตอบสนองเมื่อถูกเรียกชื่อ และไม่สามารถสื่อสารเพื่อบอกความต้องการของตนเองได้??? พัฒนาการไม่สมวัย?? น่าเสียดายผู้ใหญ่ที่ดูแลเด็กชายคนที่สองนี้ได้ปล่อยเวลาที่ดีที่สุดต่อการ พัฒนาคุณภาพของเด็กให้ผ่านไปไปโดยไม่รู้ตัว

เด็กมีความเป็นปัจเจกเช่นเดียวกับผู้ใหญ่? เด็กแต่ละคนมีความชอบและไม่ชอบแตกต่างกันไป อย่างไรก็ตามเด็กทุกคนมีความต้องการที่จะเล่นเหมือนกัน?? ผู้ใหญ่จะมีบทบาทสำคัญที่จะเอื้อให้เด็กได้เล่นหรือไม่หรือให้เด็กๆได้มี โอกาสเล่นอย่างมีคุณภาพเพียงใด??? การเล่นนอกจากจะเป็นกิจกรรมที่ช่วยส่งเสริมพัฒนาการทั้งทางด้านร่างกาย?? อารมณ์? สังคมและสติปัญญาให้แก่เด็กแล้วยังจะช่วยให้พ่อ? แม่? ผู้ปกครองหรือผู้เกี่ยวข้องได้รู้จักลูกๆหรือเด็กๆในความดูแลของตนเองด้วย

ลองสังเกตบุตรหลานหรือเด็กๆใกล้ตัวนะคะแล้วลองพิจารณาว่าเห็นด้วยกับผู้ เขียนหรือไม่ว่าการเล่นไม่ใช่เรื่องเล่น..เล่น?

วันศุกร์ที่ 2 เมษายน พ.ศ. 2553

การเล่าเรียนหรือทำการสิ่งใดๆ

เด็ก ๆ จึงต้องฝึกฝนอบรมให้เกิดมีขึ้นในตนเอง เพื่อจักให้เติบโตขึ้นเป็นคนดี มีประโยชน์และมีชีวิตที่สะอาด ที่เจริญมั่นคงเด็กเป็นอันมาก มีความรักดีมาแต่กำเนิด จะเรียน จะเล่น จะทำสิ่งใด ก็มุ่งมั่นทำให้ดีเด่นไม่มีปัญหาอุปสรรค หรือความยากลำบากยากแค้นใดๆ จะกีดกั้นไว้ได้ เด็กเหล่านี้ ผู้ใหญ่ควรมั่นใจและแผ่เมตต
เกื้อกูล ประคับประคอง
ให้ได้มีโอกาสพัฒนาไปในทางที่ถูกที่ดีทั้งด้านการศึกษา และจิตใจ
เขาจักได้เจริญเติบโตเป็นคนดีพร้อมและเป็นตัวอย่างแก่เยาวชนทั่วไป
ความรู้ ประโยชน์แท้จริงของสิ่งทั้งหลายเป็นสิ่งที่ผู้ใหญ่ ต้องปลูกฝังให้หยั่งลึกในตัวเด็ก เด็กจักได้เติบโตเป็นคนฉลาด เที่ยงตรง และสามารถสร้างสรรค์ประโยชน์ที่พึงประสงค์ให้แก่ตน แก่ส่วนรวมได้แน่นอน
มีประสิทธิภาพการทำงานยากลำบากกว่าการเรียนการเรียนนั้น เรียนตามหลักสูตรหรือเรียนวิชาต่าง ๆ ตามที่ทางมหาวิทยาลัยจัดลำดับให้แต่การทำงานไม่มีหลักสูตรวางไว้ จำจะต้องใช้ความคิดริเริ่ม
และความคิดพิจารณาด้วยตนเองในอันที่จะทำสิ่งใด อย่างไร เมื่อใดหากไม่รู้จักพิจารณาใช้ให้ถูกโอกาส
ถึงมีวิชาอยู่ ก็ไม่เป็นผลแก่งานและแก่ตัวนัก
เด็กต้องหัดทำตัวให้สุภาพ อ่อนโยน หมั่นขยัน เอาการเอางาน เอื้อเฟื้อช่วยเหลือผู้อื่นด้วยความเต็มใจ
อยู่เสมอให้ติดเป็นนิสัย จักได้เติบโตเป็นคนดีมีประโยชน์ และมีความเจริญมั่นคงในชีวิต