วันศุกร์ที่ 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

V R Music (คลิก เพื่อดูภาพประกอบ)









VR Music

ดนตรีกับการพัฒนาสมอง

คุณเคยสังเกตมั๊ยว่า เด็กบางคนมีปัญหาเรื่องการเคลื่อนไหวร่างกาย ไม่ว่าจะกระโดดโลดเต้น จะเดินเหินก็ดูงุ่มง่ามไปหมด เป็นผลให้เกิดอุบัติเหตุเล็กๆ น้อยๆ อยู่บ่อยๆ สาเหตุหนึ่งของการเกิดขึ้นดังกล่าวพบว่ามาจาก

การ ทำหน้าที่ของสมองที่ไม่สมบูรณ์

สมองมนุษย์แบ่งออก เป็น สมองใหญ่ (Cerebrum) และ สมองน้อย (Cerebellum) ฟังดูแล้วเราอาจจะคิดว่า สมองใหญ่มีความสำคัญกว่า ลองมาดูหน้าที่ของเจ้าสมองทั้ง 2 ส่วน

สมองใหญ่ - ทำ หน้าที่สั่งการทุกสิ่งทุกอย่างในร่างกายมนุษย์ สั่งให้เราเคลื่อนไหว เดินหน้าถอยหลัง ลุกนั่งยืนเดิน

สมองน้อย - ทำ หน้าที่สั่งการในรายละเอียดของการเคลื่อนไหวในร่างกายมนุษย์ และส่งให้สมองใหญ่สั่งการอีกครั้ง เกิดการทำงานที่เหมาะสมของกล้ามเนื้อที่เกี่ยวข้องได้ นอกจากนี้ ยังมีหน้าที่เกี่ยวกับความจำของความเคลื่อนไหวของกิจกรรมที่ทำเป็นประจำ เช่น การขับรถได้ทุกวันโดยไม่ต้องคิดว่าเข้าเกียร์ทำอย่างไร

ดัง นั้น การแก้ปัญหาเรื่องการเคลื่อนไหวข้างต้นต้องพัฒนาสมองส่วนน้อยให้มี ประสิทธิภาพ เพื่อให้การสั่งการของสมองใหญ่สมบูรณ์ แล้วเราจะพัฒนาสมองน้อยให้เด็กของเราอย่างไรดีหละ เพื่อให้มันสมบูรณ์พร้อมสำหรับการเติบโตเป็นผู้ใหญ่ในอนาคต

จากการศึกษาโดยนักการ ศึกษาพบว่า การเสริมสร้างพัฒนาการของเด็กโดยการใช้ดนตรีเป็นวิธีที่ ได้ผลดีที่สุดวิธีหนึ่ง เนื่อง จากเด็กชื่นชอบดนตรีอยู่แล้วโดยธรรมชาติ ตั้งแต่ทารกในครรภ์มารดาเมื่อได้ยินเสียงดนตรีจะมีปฏิกิริยาตอบสนอง และในเด็กเล็กก็จะแสดงพฤติกรรมความพอใจในเสียงดนตรี ด้วยการใช้ช้อนเคาะโต๊ะ เคาะจาน ทำเสียงสูงๆ ต่ำๆ เลียนแบบเสียงดนตรีที่ได้ยินจากวิทยุหรือโทรทัศน์ บางครั้งก็ทำท่าทางประกอบด้วย ปฏิกิริยาความกระตือรือร้นดังกล่าวเหล่านี้มีผลช่วยกระตุ้นสมองน้อยส่วนที่ ใช้ความจำ ทำให้เกิดการเรียนรู้ได้อย่างรวดเร็วอีกต่างหาก

นอก จากนี้ เป็นที่ยอมรับกันในนักการศึกษาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันว่าดนตรีช่วย พัฒนาการทางอารมณ์ สังคม และ สติปัญญาให้กับเด็กได้ สร้างเสริมผู้เรียนให้เจริญงอกงาม มีสุนทรีย์และบุคลิกภาพ อีกด้วย เพราะฉะนั้น

ดนตรีสำหรับเด็กนอกจากเป็นความสามารถพิเศษติดตัวแล้ว

ยังช่วยเสริมสร้างสุขภาพ อนามัย

ส่งเสริมพัฒนาการทางอารมณ์ สังคม และ สติปัญญา

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น